Omakase ที่เราจะไปลองในครั้งในนี้ชื่อร้าน Mokusai อยู่ที่ซอยสุขุมวิท 26 ค่ะ จริงๆ แล้วร้านนี้มีอาหารญี่ปุ่นแบบอาลาคาร์ทขายด้วย แต่วันนี้ที่เราจะพาไปดูกันเป็นในส่วนของโอมากาเสะค่ะ
ร้าน Mokusai เป็นร้านที่มีโอมากาเสะในราคาย่อมเยาว์สำหรับมือใหม่หัดกินแต่ยังไม่กล้าเพราะราคานั้นแพง สามารถมาลองที่นี่ก่อนได้เพราะโอมากาเสะของที่นี่มีราคาเริ่มต้นแค่ 1,900++ เท่านั้นค่ะ อีกทั้งการเดินทางก็สะดวกเพราะว่าตั้งอยู่ในกลางเมืองใกล้ๆ กับ K-Village ค่ะ ตัวร้านเองก็เป็นแบบส่วนตัวเพราะแต่ละรอบจะรับได้ 6-7 ที่ รังสรรค์เมนูโดยเชฟบอมกับเมนูซูชิในสไตล์โมเดิร์นคือสไตล์ของที่นี่จะมีวิธีการปรุงและเทคนิคในแบบที่เราไม่เห็นในร้านโอมากาเสะแบบดั้งเดิม เรียกได้ว่ากินไปก็ต้องถามไปอันนี้อะไร อันนั้นอะไร ทำยังไง เพลิดเพลินตลอดชม. กว่าๆ ที่เราอยู่เลยค่ะ
Pricing (As of July 2019)
โอมากาเสะที่ Mokusai จะมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 3 คอร์สได้แก่ Sushi Chef”s Choice Set 1,900 ++ ซูชิ 4 คอร์ส 12 เมนู / Mini Omakase 2,500 ++ ซูชิ 9 คอร์ส 17 เมนู / Omakase 4,500 ++ Seasonal Fish ซูชิ 9 คอร์ส 19 เมนู ทุกรายการฟรีเครื่องดื่มพวกชาเขียวกับ Soft Drink แล้วค่ะ โดยรอบในการมาจะมี 4 รอบ
รอบที่ 1 16:00-17:30
รอบที่ 2 18:00-19:30
รอบที่ 3 20:00-21:30
รอบที่ 4 22:00-23:30
สำหรับคอร์สที่เรากินวันนี้เป็นตัว 2,500++ แต่อันนี้เราไปมาซักพักแล้วตอนนั้นทางร้านยังมีมื้อกลางวันด้วย เมนูก็อาจจะไม่เหมือนกันปัจจุบันซะทีเดียวนะคะ ขึ้นอยู่กับปลาในแต่ละฤดูกาลด้วย แต่คร่าวๆ คอร์สนี้เราจะได้กินอะไรกันบ้างมีตามนี้เลยค่ะ
เริ่มต้นคอร์สกับด้วยซาชิมิค่ะ ตัวแรกเป็น Kinmedai sashimi เสิร์ฟคู่กับซอสสาเก
ซาชิมิตัวที่สองเป็น Madai sashimi ตัวนี้วิธีกินจะมีโรยเกลือกับมะนาว ชูรสชาติของปลาให้ออกไปทางที่สดชื่นมากขึ้นค่ะ
เริ่มซูชิตัวแรกเป็น Hirame บนข้าวซ่อนไว้ด้วยใบโอบะกับบ้วยออกเปรี้ยวเล็กน้อยแต่ไม่มากไป ปกติฮิราเมะจะจืดๆ พอมีเครื่องที่ซ่อนอยู่ข้างในทำให้รสชาติน่าสนใจมากขึ้นค่ะ
คำที่สองเป็น Shima Aji ปลาชิมาอาจิเนื้อจะกรอบกว่าปลาอื่นๆ ถือเป็นปลาในตระกูลปลาทูอีกตัวนึง เสน่ห์ของปลาชนิดนี้เราว่าอยู่ที่การแร่ พอแร่แล้วจะเห็นมีลายหนังปลาสีเงินๆ เล็กน้อยค่ะ
Kuruma Ebi คำนี้น่าสนใจทีเดียวเพราะจะมีซอสคัสตาร์ดไข่แดงด้วย ทำให้รสชาติโดยรวมจะออกไปทางหวานนิดๆ ค่ะ ตัวคัสตาร์ดทำจากสาเก มิรินและตาล กวนรวมกันกับไข่แดง มันทำให้เนื้อกุ้งรสมันนัวๆ ขึ้น แต่ตัดรสไม่ให้หวานไปด้วยเลมอนเล็กน้อย
คั่นกันด้วยเมนูทอดกันบ้าง Kisu ten เป็นปลาทรายทอดเชฟจะโรยเกลือไว้แล้วเล็กน้อย ไม่ต้องจิ้มโชยุนะคะ วิธีกินคือให้บีบมะนาวไปก่อน กินคู่กับเส้นโซเมนทอดเป็นการคั่นรสชาติของปลาดิบด้วยของทอดค่ะ
Hotate คำนี้น่าสนใจเพราะเชฟขูดไข่ปลาฮาราสึมิ (ที่เป็นก้อนสีส้มๆ รูปบน) แบบจัดเต็มเลยค่ะ ตามด้วยมะนาวบีบลงไปเล็กน้อย เป็นรสชาติของหอยเชลล์ที่อร่อยทีเดียวค่ะ
คอร์สนี้เราได้กินอุนิด้วยเป็น Aka Uni หรืออุนิแดงซึ่งรสชาติจะเข้มข้น สีก็จะออกไปทางแดงเข้มๆ ค่ะ เสิร์ฟมาเป็นคล้ายๆ โรลกับข้าวและสาหร่าย อุนิพันธุ์นี้ถ้าใครชอบแบบละลายครีมมี่อาจจะไม่ค่อยถูกใจนะคะ รสสัมผัสคนละอย่าง แต่เฟย์ว่าก็อร่อยดี คนละสไตล์ค่าา
Chutoro คำนี้อร่อยกำลังดี เชฟบ่มเนื้อปลาไว้ถึง 7 วัน ทำให้เนื้อปลารสชาติแตกต่างจากที่เคยกินมา
น่าสนใจทีเดียว ที่มีการเสิร์ฟเมนูเส้นด้วยค่ะ จานนี้เป็น Soba Onsen เส้นโซบะเย็นเสิร์ฟในซุปเย็น พร้อมกับเห็ด และก็ไข่ออนเซน
ทูน่าของวันนี้จะเป็นส่วนเนื้อแดงค่ะ Akami Tsuke คือการนำไปหมักในซอสซึ่งตัวนี้เชฟหมักนานถึง 6 ชม. ส่วนตัวเราเสียดายเพราะคิดว่าเนื้อปลาแห้งไปหน่อย แต่ก็แล้วแต่ความชอบของแต่ละคนนะคะ ส่วนในข้าวจะมีซอสสาหร่ายอยู่ด้วย
Kohada เป็นปลาตระกูลหนังเงิน รสชาติจะเข้มข้นกว่าปลาเนื้อขาวเชฟจึงมักจัดมาในคอร์สหลังๆ ค่ะ เนื้อจะกรุบๆ แน่นๆ เสิร์ฟพร้อมซอสต้นหอมไทยสับกับขิงค่ะ
มาถึงตัวที่ชอบอีกตัวในคอร์สนี้คือ Ikura don ตัวข้าวเชฟจะผสมกับไข่ปลาฮาราซึมิก่อน ท้อปปิ้งจะมีซอสไข่นกกระทา อิคุระ และก็ไข่หอยเม่นพันธุ์ Aka uni ตัวนี้จะเสิร์ฟพร้อมสาหร่าย ให้เราตักกินคู่กันได้ตามชอบเลย
Negi-toro handroll อีกตัวที่นิยมเสิร์ฟในคอร์สโอมากาเสะก็คือเมนู Hand Roll ค่ะ ตัวนี้เป็นทูน่าสับกับต้นหอม นำมาปั้นเป็นโรลด้วยมือ เทคนิคการกินเมนูประเภทนี้คือต้องไวค่ะ ทิ้งไว้เพียงไม่ถึงนาทีสาหร่ายก็จะไม่กรอบแล้ว ควรกินตั้งแต่เชฟเสิร์ฟเลย
Ebi Soup ซุปวันนี้เป็นกุ้งค่ะ จานนี้เชฟจะเสิร์ฟมากับมานาวพอกินไปซักพักให้ลองบีบมะนาว จะให้รสชาติที่สดชื่นขึ้นค่ะ
*** จริงๆ แล้วปิดท้ายจะมีของหวาน Yuzu icecream ด้วยแต่เราลืมถ่ายรูปมาต้องขอโทษด้วยนะะะ
หลังจากจบมื้อเราสังเกตุได้ถึงจุดเด่นอย่างนึงคือทางร้านจะใส่ใจในเรื่องของข้าว เพราะว่าเชฟจะเปลี่ยนข้าวใหม่ก่อนปั้นซูชิทุกๆ คำ เพื่อให้ได้อุณหภูมิที่พอเหมาะเท่ากันทุกๆ ครั้ง และน้ำส้มสายชูที่ใช้ในการหมักข้าวก็เป็นแบบพิเศษคือเป็นน้ำส้มสายชูกลั่นจากอ้อยและข้าวโอ๊ตค่ะ
รสชาติของซูชิโดยรวมอร่อยโอเคตาม มาตราฐานค่ะ มีการสอดแทรกด้วยเมนูอื่นที่ไม่ใช่แค่ซูชิทำให้น่าสนใจ หากใครสนใจก็แนะนำให้โทรเข้ามาจองก่อนเพราะทางร้านมีที่ไม่มาก โดยเฉพาะถ้าอยากกินคอร์สตัวแพงสุดแนะนำให้จองล่วงหน้า 3-4 วัน เพื่อทางร้านจะได้นำเข้าปลามาโดยเฉพาะค่า
—————————-
Mokusai Bangkok
https://www.facebook.com/Mokusaibkk/
ซอย สุขุมวิท26 ติดกับรร. fourwings
16:00-24:00
โทร : 02-061-3615
Line ID : @MokusaibkkIG : Mokusaibkk
สามารถจอดรถได้ที่ รร fourwings ฟรี 2 ชม